วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยว "วัดม่วง" ซึ่งเป็นวัดในจังหวัดอ่างทอง
เดิมเป็นวัดร้าง สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ต่อมาเมื่อเสียกรุง พม่าได้เผาผลาญบ้านเรือน วัด และพระพุทธรูปจำนวนมาก วัดม่วงจึงเหลือแค่ซากปรักหักพัง จนกระทั่งท่านพระครูวิบูลอาจารคุณ (หลวงพ่อเกษม อาจารสุโภ) ได้ธุดงค์มาปักกลดเห็นว่าเป็นสถานที่ที่น่าปฏิบัติธรรม ในระหว่างนั่งสมาธินั้น ท่านได้ปรากฏนิมิตเห็นองค์หลวงปู่ขาวและหลวงปู่แดงบอกว่าให้ช่วยบูรณะวัดขึ้นมาใหม่ หลังจากนั้นท่านจึงได้เริ่มการปฏิสังขรณ์ศาสนสถานต่าง ๆ เรื่อยมา
หลังจากนั้นวัดม่วงได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ.2529 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานวิสุงคามสีมาให้แก่วัดม่วง หลวงพ่อเกษมจึงรวบรวมจิตอธิษฐานร่วมกับประชาชนผู้มีจิตศรัทธาสมทบทุนในการสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระนามว่า “พระพุทธมหานมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ” มีขนาดหน้าตักกว้าง 62 เมตร สูง 93 เมตร พุทธลักษณะงดงามสีทองอร่าม สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้นถึง 16 ปี
โบสถ์วัดม่วงมีความวิจิตรงดงามใหญ่โต แปลกตาด้วยการล้อมรอบด้วยกลีบบัวปูนปั้นที่สวยงาม และใหญ่ที่สุดในโลก ภายในมีภาพจิตรกรรมเกี่ยวกับประวัติพระพุทธเจ้า ส่วนบริเวณรอบ ๆ วัดมีรูปปูนปั้นพระอรหันต์ เทพเจ้าต่าง ๆ ทั้งจีนและพราหมณ์ มีการจำลองเมืองนรก-สวรรค์ ที่แฝงไปด้วยคติสอนใจ และเหตุการณ์สำคัญของค่ายบางระจัน ให้ผู้ที่เดินทางมานมัสการได้ศึกษาประวัติศาสตร์ที่ควรจดจำ
การเดินทาง
วัดม่วง ไม่ได้ไกลจากกรุงเทพเท่าไหร่ ขับรถจากใจกลางถนนสาทร ไปจนถึงวัดม่วง จังหวัดอ่างทอง ใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง เอาจริง ๆ ก็คือ 1.40 ชั่วโมงเท่านั้นเอง โดยขับเลยอยุธยาไปไม่มากเลย
โดยวัดม่วงตั้งอยู่ที่ตำบลหัวตะพาน อำเภอวิเศษชัยชาญ ห่างจากตัวเมือง 8 กิโลเมตร ตามถนนสายอ่างทอง-สุพรรณบุรี จากอ่างทองใช้ทางหลวงหมายเลข 3195 (อ่างทอง-วิเศษชัยชาญ) แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปอีก 1 กิโลเมตร เมื่อเราไปถึงใกล้ ๆ ก็จะเห็นพระองค์ใหญ่ที่สุดในโลก สีทองอร่ามมาตั้งแต่ไกลครับ